google.com, pub-8763358055991640, DIRECT, f08c47fec0942fa0

17 สิงหาคม 2558

กินแอปเปิ้ล ห่างไกลหมอ....Apple keeps the doctor away

ภาพจากgoogle

มีคำพูดหนึ่งที่เราได้ยินคือ "กินแอปเปิ้ลวันละผล ห่างไกลหมอ (An apple a day keeps the doctor away)"

ซึ่งคำกล่าวนี้มีมานานกว่า 100 ปีแล้ว โดยนักวัยชาวอเมริกาได้ทำการทดลองให้กลุ่มตัวอย่างอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ทำการรับประทานแอปเปิ้ลวันละ 1 ผล พบว่า กลุ่มผู้ที่ทานแอปเปิ้ลทุกวันจะไปพบแพทย์น้อยกว่าผู้ที่ไม่ทานแอปเปิ้ล แต่การรับประทานแอปเปิ้ลเพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นยาวิเศษในการขจัดทุกโรคภัย

แต่แอปเปิ้ลเป็นผลไม้ชนิดที่มีใยอาหารที่ละลายน้ำได้ ช่วยในเรื่องท้องผูก และลดไขมันตัวเลว (LDL) อันเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคระบบหลอดเลือดหัวใจ แอปเปิ้ลยังเป็นแหล่งวิตามินซี และสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยในการสร้างคอลลาเจน และอุดมไปด้วยแร่ธาตุอื่น ๆ เช่น โพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียมอีกด้วย

ดังนั้น แอปเปิ้ลจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้รักสุขภาพ

บ้านรักษ์สุขภาพ จึงได้ทำการผลิต น้ำหมักเอนไซม์จากแอปเปิ้ลที่มีอายุหมักนาน 6 ปีขึ้นไป โดยใช้กรรมวิธีการหมักของ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงศ์ ที่ใช้หมักกับน้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้ความชื้นต่ำ เพื่อให้ได้น้ำหมักที่อุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

อีกทั้ง ผู้ที่รับประทานน้ำหมักเอนไซม์จากแอปเปิ้ลเป็นประจำมีสุขภาพแข็งแรง ผิวสวยเปล่งปลั่ง กระดูกแข็งแรง เพราะน้ำหมักเอนไซม์แอปเปิ้ลอุดมไปด้วย เอนไซม์ สารเพปไทด์ วิตามิน แร่ธาตุ และฮอร์โมน ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างสูงสุด และร่างกายสามารถนำไปใช้ได้อย่างสมบูรณ์

แอปเปิ้ลที่บ้านรักษ์สุขภาพใช้ในการหมักมี 2 สี คือ แอปเปิ้ลเขียว และแอปเปิ้ลแดง ที่มีประโยชน์ดังนี้

  • แอปเปิ้ลสีแดง จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเยอะที่สุด จึงเหมาะแก่การช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย เป็นต้น
  • แอปเปิ้ลเขียว มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะมีน้ำตาลน้อยกว่าแอปเปิ้ลสีอื่น

คุณค่าทางโภชนาการของแอปเปิ้ล ต่อ 100 กรัม
พลังงาน 52 กิโลแคลอรี่
คาร์โบไฮเดรต 13.81 กรัม
น้ำตาล 10.39 กรัม
เส้นใย 2.4 กรัม
ไขมัน 0.17 กรัม
โปรตีน 0.26 กรัม
น้ำ 85.56 กรัม
วิตามินเอ 3 ไมโครกรัม 0%
เบต้าแคโรทีน 27 ไมโครกรัม 0%
ลูทีน และ ซีแซนทีน 29 ไมโครกรัม
วิตามินบี1 0.017 มิลลิกรัม 1%
วิตามินบี2 0.026 มิลลิกรัม 2%แอปเปิ้ล
วิตามินบี3 0.091 มิลลิกรัม 1%
วิตามินบี5 0.061 มิลลิกรัม 1%
วิตามินบี6 0.041 มิลลิกรัม 3%
วิตามินบี9 3 ไมโครกรัม 1%
วิตามินซี 4.6 มิลลิกรัม 6%
วิตามินอี 0.18 มิลลิกรัม 1%
วิตามินเค 2.2 ไมโครกรัม 2%
ธาตุแคลเซียม 6 มิลลิกรัม 1%
ธาตุเหล็ก 0.12 มิลลิกรัม 1%
ธาตุแมกนีเซียม 5 มิลลิกรัม 1%
ธาตุแมงกานีส 0.035 มิลลิกรัม 2%
ธาตุฟอสฟอรัส 11 มิลลิกรัม 2%
ธาตุโพแทสเซียม 107 มิลลิกรัม 2%
ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
ธาตุสังกะสี 0.04 มิลลิกรัม 0%
ธาตุฟลูออไรด์ 3.3 ไมโครกรัม
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่

(ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)

น้ำหมักเอนไซม์แอปเปิ้ลสองสีนี้ จึงอุดมไปด้วย สารต้านอนุมูลอิสระสูง มีแร่ธาตุ เกลือแร่ เอนไซม์ และฮอร์โมนที่ร่างกายต้องการ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพทุกเพศทุกวัย


สนใจติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อ น้ำหมักเอนไซม์จากแอปเปิ้ลอายุ 6 ปี ขึ้นได้ สอบถามได้ที่ไลน์ไอดี tu-bgood หรืออีเมล์ tusora@gmail.com

10 สิงหาคม 2558

36 ประโยชน์ของน้ำหมักจากมังคุด

มังคุด เป็นราชานิแห่งผลไม้ไทย ที่มีประโยชน์สูง ตั้งแต่เปลือกจนกระทั่งเนื้อเมล็ด เพราะทั้งเปลือก เนื้อ และเมล็ด อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิเดนซ์ และสารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย
จึงได้มีการแปรรูปมังคุดเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทั้ง น้ำจากผลมังคุด น้ำจากเปลือกมังคุด น้ำจากเนื้อมังคุด และน้ำหมักเอนไซม์จากมังคุด ซึ่งอาจหมักทั้งลูก หรือน้ำหมักจากเปลือกมังคุดที่หมักจากเปลือกมังคุดล้วน ๆ

ในบทความนี้เราจะมากล่าวถึงประโยชน์ของน้ำหมักจากมังคุด ซึ่งมีมากมายถึง 36 ประการ ดังนี้

1. น้ำหมักจากผลมังคุดทั้งลูก มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอย

2. น้ำหมักจากผลมังคุดทั้งลูก มีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระต่าง ๆได้มากกว่าผลไม้ชนิดอื่น ๆ

3. น้ำหมักจากเนื้อเปลือกมังคุด ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส แข็งแรง

4. น้ำหมักจากผลมังคุดทั้งลูก ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิต้านทานให้แข็งแรง

5. น้ำหมักจากเนื้อมังคุด ช่วยลดไข้ บรรเทาอาการอ่อนเพลีย

6. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

7. น้ำหมักจากเนื้อมังคุด ช่วยเพิ่มพลังงานแก่ร่างกาย เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า

8. น้ำหมักจากเปลือกมังคุด ช่วยรักษาสิว เปลือกมังคุดมีคุณสมบัติในการยัยยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว และยังออกฤทธิ์ต้านสิวอักเสบได้ดีอีกด้วย

9. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน โรคเกี่ยวกับระบบประสาท

10. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดขาวชนิด ทีเอช 1 และ ทีเอช 17 มีฤทธิ์ช่วยกำจัดและป้องกันการก่อเกิดเซลล์มะเร็งเกือบทุกชนิดได้

11. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งชนิดต่าง ๆ อย่าง เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งตับ มะเร็งเต้านม มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร

12. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยในการขยายตัวของหลอดเลือด ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ

13. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคเกี่ยวกับทางเดินหัวใจ

14. น้ำหมักจากเนื้อมังคุด ช่วยลดความดันโลหิต

15. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยรักษาไทรอยด์เป็นพิษ

16. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และลดไขมันที่ไม่ดีในเส้นเลือด

17. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดเนื้องอกในร่างกาย

18. น้ำหมักจากเนื้อมังคุด มีสวนช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน ด้วยคุณสมบัติในการลดและควบคุมระดับน้ำตาล

19. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้

20. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก มีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการของโรคหอบหืด

21. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก มีส่วนช่วยบำรุงและรักษาสายตา

22. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยบำรุงสุขภาพช่องปากและเหงือกให้แข็งแรง

23. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยลดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์

24. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยรักษาและสมานแผลในช่องปากหรือปากแตกให้หายเร็วยิ่งขึ้น

25. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ไฟเบอร์จากมุงคุดช่วยในการย่อยอาหาร ป้องกันอาการท้องผูก

26. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยบำรุงและฟื้นฟูความสมดุลภายในกระเพาะอาหาร ด้วยการยับยั้งการเจริญเติบโตเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วง จุกเสียด เกิดแก๊สในกระเพาะและการดูดซึมอาหารบกพร่อง

27. น้ำหมักจากเปลือกมังคุด ช่วยแก้อาการท้องร่วงเรื้อรัง อาการถ่ายเป็นมูกเลือด

28. น้ำหมักจากเนื้อมังคุด ช่วยให้ระบบทางเดินปัสสาวะอยู่ในสภาวะปกติ

29. น้ำหมักจากเนื้อมังคุด ช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่วในไต

30. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก มีส่วนช่วยป้องกันอาการตับเสื่อม ไตวาย

31. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยรักษาอาการข้อเข่าอักเสบ

32. น้ำหมักจากเปลือกมังคุด มีฤทธิ์ฝาดสมาน ทำให้แผลหายเร็ว

33. น้ำหมักจากมังคุดทั้งลูก ช่วยต่อต้านและป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด เชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ และไวรัสต่าง ๆ อย่างเชื้อวัณโรค เชื้อ HIV เป็นต้น

34. น้ำหมักจากเปลือกมังคุด ช่วยลดอาการอักเสบและมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง

35. น้ำหมักจากเปลือกมังคุด ช่วยยับยั้งการเกิดและใช้รักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ อย่าง กลากเกลื้อน ผดผื่นคันต่าง ๆ


36. น้ำหมักจากเปลือกมังคุด ช่วยแก้อาการน้ำกัดเท้า แผลเปื่อย

ประโยชน์มากมายแบบนี้ ทำไหมไม่มาหมักมังคุดไว้ใช้กันละค่ะ หรือถ้าต้องการใช้ตอนนี้ ก็สอบถามมาที่ บ้านรักษ์สุขภาพ คุณตู๋ Line id :tu-bgood หรือ Email: tusora@gmail.com 
ลองรับไปใช้กันดูก็ได้นะค่ะ ทางบ้านรักษ์สุขภาพมีทำไว้หมักตั้งแต่ปี 2552 แล้วค่ะ ลองสอบถามได้ค่ะ

วิธีการทำน้ำหมักจากเปลือกมังคุด อ่านได้ที่ http://friutenzyme.blogspot.com/2014/07/blog-post.html

สนใจรับข่าวสารเพิ่มเติม หรือมาคุยกันได้ที่เฟตบุ๊ค https://www.facebook.com/friutenzyme?ref=hl

5 สิงหาคม 2558

ปึ่งปั่งด้วยน้ำผึ้งดอกไม้ป่าเสริมสุขภาพทางเพศ (Polyflora Honey Sexual Health)

จากตำราแพทย์แผนจีน และแพทย์แผนโบราณ กล่าวไว้ว่า... “น้ำผึ้ง” เป็นยาอายุวัฒนะ หรือ “อาหารเสริมบำรุงร่างกาย” มีคุณประโยชน์มากมายนานานัปกาล คุณประโยชน์ของ น้ำผึ้ง ทั้งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต การฟื้นฟูระบบต่างๆ ของร่างกายที่สึกหรอ ช่วยชะลอวัย ทำให้เซลล์แข็งแรง มีกำลังเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย
เสริมสมรรถภาพทางเพศ
ภาพจาก กูเกิ้ล


แต่อีกคุณประโยชน์ของน้ำผึ้ง ที่น้อยคนนักจะรู้ว่า “น้ำผึ้งเป็นอาหารเสริมสุขภาพทางเพศ” ใช้ได้ทั้งเพศหญิง และเพศชาย ทำให้กระชุ่มกระช่วย เปล่งปลั่ง ปึ่งปั่นได้

ซึ่งคนในสมัยก่อน ทั้งชาวจีน และชาวไทย ได้นำ น้ำผึ้งมาใช้เป็นยาบำรุงเสริมสุขภาพทางเพศในหลาย ๆ ขนาน เพราะ ในส่วนประกอบของน้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้นั้น จะอุดมไปด้วยสารอาหาร และฮอร์โมนที่ช่วยฟื้นฟู กระตุ้นร่างกายให้อ่อนเยาว์ แข็งแรง กระชุ่มกระชวย

โดยเฉพาะ น้ำผึ้งดอกไม้ป่านานาชนิดที่บริสุทธิ์ไม่ผ่านกระบวนการให้ความร้อน จะอุดมไปด้วยสารอาหาร แร่ธาตุ และฮอร์โมนทางเพศที่ช่วยกระตุ้นสุขภาพทางเพศได้ดี
ทั้งแร่ธาตุจำพวก สังกะสี วิตามินบี วิตามินอี ที่ช่วยเสริมสร้างกระบวนการผลิตฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเตอโรน) อีกทั้งในน้ำผึ้งยังมี "สารโบรอน" ที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิต ฮอร์โมนเอสโทรเจน (ฮอร์โมนเพศหญิง) ที่เป็นฮอร์โมนที่สำคัญในการเร้าอารมณ์ทางเพศ
นอกจากนี้ยังช่วยในการกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกายให้กลายเป็นน้ำตาล ช่วยในการลดไขมัน ลดน้ำหนักได้อีกด้วย

เทคนิคการรับประทาน น้ำผึ้งดอกไม้ป่าเพื่อเสริมสร้างสุขภาพทางเพศ มี ดังนี้

1. ผสมน้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้ 1 ช้อนโต๊ะ กับกระเทียม 1 หัว บุบให้แตก ทานก่อนนอนเป็นประจำ จะช่วยให้หลับง่าย และช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศให้ดีขึ้น

2. สำหรับผู้ที่มีบุตรยาก เนื่องจากฝ่ายชายมีจำนวนอสุจิต่ำ ให้ฝ่ายชาย รับประทานน้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้ 1-2 ช้อนโต๊ะ เป็นประจำทุกวันจะช่วยให้ร่างกายสามารถเพิ่มจำนวนตัวอสุจิให้สูงขึ้น
และเสริมสร้างความแข็งแรงให้ตัวอสุจิ ทั้งยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์ของร่างกายที่มีหน้าที่ผลิตอสุจิทำงานดีขึ้น

3. สำหรับฝ่ายชาย ที่ต้องการให้ปึ่งปั่ง อวัยวะเพศแข็งตัวได้ดี ควรรับประทานน้ำผึ้งผสมกับน้ำผลไม้วันละ 2-4 ช้อนโต๊ะ เช้าเย็น เป็นประจำทุกวัน
เพราะในน้ำผึ้งมี Nitric Oxide ค่อนข้างมาก ซึ่ง Nitric Oxide จะช่วยส่งผลให้หลอดเลือดเกิดการคลายตัว ส่งผลให้อวัยวะเพศชายก็จะแข็งตัวได้ดี ไม่เกิดปัญหาเรื่องนกเขาไม่ขันแน่นอน

รู้อย่างนี้แล้ว ใครสนใจก็ลองไปหาน้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้มารับประทาน และพิสูจน์เรื่องนี้กันได้ตามอัธยาศัยเลยนะค่ะ ได้ผลอย่างไร ก็มาบอกต่อกันบ้างนะค่ะ

ขอบคุณเนื้อหาดี ๆ จากซานุ๊ก

น้ำผึงแท้ น้ำผึ้งดอกไม้ป่า
น้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้ ความชื้นต่ำ 18% 

เป็นน้ำผึ้งดอกไม้ป่าบริสุทธิ์ที่มีปริมาณน้ำตาลฟรุกโตสสูงมากกว่าน้ำตาลกลูโคส ซึ่งถ้าเป็นน้ำผึ้งดอกไม้ป่าปลอม จะมีแนวโน้มมากที่จะตกผลึกอย่างรวดเร็ว

น้ำผึ้งดอกไม้ป่า นอกจากนี้ยังอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่ ช่วยบำรุงและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย

ชาวกรีกสมัยโบราณถือว่าเป็นน้ำอมฤตของเหล่าเทพ วงการแพทย์ยอมรับว่าสารอินฮิบินในน้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการต่อต้านเชื้อโรค ช่วยในการรักษาบาดแผลสด ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลติดเชื้อ แก้ท้องผูก ช่วยเร่งน้ำย่อยให้เจริญอาหาร และช่วยในการเจริญตามภาวะปกติ หรือยามเจ็บป่วยของมนุษย์ ทั้งยังเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการแก่อาหารอีกด้วย

น้ำผึ้ง 100 กรัม มีคุณค่าอาหารเท่ากับ 303 แคลอรี่ หรือ 1 ช้อนโต๊ะ ( 20 กรัม ) มีคุณค่าทางอาหารเท่ากับ 60 แคลอรี่

ข้อห้าม ผู้เป็นโรคเบาหวาน ไม่ควรรับประทานเกินวันละ 2 ช้อนชา เนื่องจากน้ำตาลในน้ำผึ้งจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นได้

ส่วนประกอบของน้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้

80% natural sugars (น้ำตาลจากธรรมชาติ)
18% water (ความชื้น)
2% minerals, vitamins, pollen and protein (แร่ธาตุ, วิตามิน, เกสรผึ้ง และโปรตีน)
Additive free (ไม่มีการแต่งกลิ่น แต่งสี แต่งรส)

ขนาด 1.2 กก ราคา 350 บาท
ขนาด 7.0 กก ราคา 1800 บาท

สนใจสอบถามสั่งซื้อได้ที่ ไลน์ไอดี @qwd5997q
หรือดูรายละเอียดน้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.293846130748806.1073741833.289410941192325&type=3

3 สิงหาคม 2558

4 อาการขับของเสียเมื่อรับประทานเอนไซม์เสริม (Healing Crisis)

อาการขับของเสียออกจากร่างกาย ในสภาวะที่ร่างกายเข้าสู่กระบวนการล้างพิษ หรือดีท๊อกซ์ อาการขับของเสียเหล่านี้เรียกว่า ระยะหรือภาวะซ่านพิษ

1. ท้องเสีย ถ่ายเหลว 
 เนื่องจากร่างกายมีการขับของเสียจากลำไส้และระบบทางเดินอาหาร ไม่ควรตกใจ ให้ทานน้ำผักปั่น และน้ำเข้าไปเยอะ ๆ เพื่อให้เซลล์ขับของเสียให้หมด

ดูสูตร น้ำผักปั่นพลังเอนไซม์บำบัด 

2. เวียนศีรษะ ง่วงนอน
เนื่องจากร่างกายพักผ่อนน้อยหรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ไม่ต้องกังวน ให้ทานน้ำข้าวกล้อง หรือน้ำผักปั่นเพิ่ม และทานอาหารที่ย่อยสลายง่าย ๆ เข้าไป พร้อมทั้งนอนพักผ่อนให้เพียงพอ และทานน้ำเยอะ ๆ

ดูสูตร น้ำข้าวกล้อง

3. คันเนื้อตัว ผื่นขึ้น
เนื่องจากมีของเสียตกค้างในชั้นไขมันใต้ผิวหนังเยอะ จึงเกิดภาวะที่ร่างกายขับของเสียออก ไม่ต้องตื่นตูม ให้ดื่มน้ำเพิ่มขึ้น ตลอดจนทานน้ำโหระพาต้มแทนน้ำ อาการจะดีขึ้นใน 2 อาทิตย์

ดูสูตร น้ำโหระพา


4. ท้องอืด เรอ มีลมในกระเพาะ 
เนื่องจากมีของเสียตกค้างในทางเดินอาหาร กระเพาะและลำไส้อยู่ ให้ต้มน้ำโหระพาดื่ม หลังอาหารทุกมื้อ หลังอาหารประมาณ 30 นาที และทานน้ำขิงในช่วงบ่าย

ดูสูตร น้ำขิง

ในช่วงต้นที่เริ่มทานน้ำเอนไซม์ หรือคนที่มีของเสียสะสมในร่างกายเยอะ หรือรับประทานอาหารจานด่วน แช่แข็ง อาหารขยะเป็นเวลานาน

สนใจผลิตภัณฑ์  น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้น หรือสูตรดีท๊อกซ์ ดูได้ที่ https://www.facebook.com/friutenzyme/photos/a.291448154321937.1073741828.289410941192325/665708650229217/?type=3&theater หรือสอบถามรายละเอียดสั่งซื้อที่ ไลน์ไอดี @qwd5997q




2 สิงหาคม 2558

ลดน้ำหนักแบบง่าย ๆ ด้วยน้ำมะนาว (Lemonade Weightloss)

เคล็ดไม่ลับแบบง่าย ๆ ในการลดน้ำหนักของนางแบบสาวท่านหนึ่งคือ การดื่มน้ำมะนาว (เขียว/เหลือง) วันละ 2 แก้ว ดังนี้

แก้วแรก ตื่นเช้ามา ยังไม่ต้องแปรงฟันค่ะ ให้บีบมะนาว 1 ลูกลงในน้ำอุ่น 1 แก้ว พร้อมแช่เปลือกมะนาวลงไป ทิ้งไว้สัก 5 นาที เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกของมะนาวระเหยและละลายออกมาผสมในน้ำ อีกทั้งสารแทนนินรสขมจากเปลือก จะช่วยให้เจริญอาหาร รสเปรี้ยวจากน้ำมะนาวจะช่วยชะล้างเมือกมันในทางเดินอาหาร กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาวจะช่วยดีท๊อกซ์ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้สดชื่นกระชับกระเฉง กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

แก้วที่สอง หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ให้บีบมะนาว 1 ลูกลงในน้ำเย็น 1 แก้ว พร้อมกับแช่เปลือกมะนาวลงไป ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วค่อยดื่ม น้ำเย็นและน้ำมะนาวจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ทำให้ระบบการเผาผลาญและการย่อยอาหารดีขึ้น

มาลองทำแบบนี้ดูสัก 1 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของคุณ พร้อมกับระบบต่าง ๆ ของร่างกายดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ  สอบถาม ไลน์ไอดี @qwd5997q

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเว็บกระปุก
ขอบคุณภาพประกอบจากกูเกิ้ล



1 สิงหาคม 2558

นมถั่วเหลืองชะลอวัยเสริมสุขภาพวัยทอง

นมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้ เป็นอาหารที่ได้ขึ้นชื่อว่า เป็น "ซูเปอร์ฟู๊ด" หรือ อาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซูเปอร์ฟู้ดไม่ใช่อาหารลดความอ้วนนะแต่สามารถช่วยในเรื่องของการควบคุมน้ำตาล แป้งและไขมันได้เป็นอย่างดีถ้ากินสม่ำเสมอ


ประโยชน์ของน้ำนมถั่วเหลือง

น้ำนมถั่วเหลืองหรือน้ำเต้าหู้ เรานิยมบริโภคกันมานานแล้ว จากประวัติศาสตร์ของจีนกว่า 2,000 ปีมาแล้วมีชายที่ชื่อ หลิวอัน (Liu An) หลานปู่ของ หลิวปัง (Liu Bang) หรือ ฮั่นเกาจูฮ่องเต้ ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ฮั่น  ได้มีหลักฐานปรากฏว่า หลิวอันผลิตนมถั่วเหลืองจากถั่วเหลืองเพื่อให้มารดาที่ป่วยของเขาทานทุกวัน เนื่องจากมารดาของเขาไม่สามารถเคี้ยวถั่วเหลืองได้ การดื่มน้ำนมถั่วเหลืองนั้นทำให้มารดาของเขาแข็งแรงขึ้นและหายป่วยอย่างรวดเร็ว

ทำให้นมถั่วเหลืองได้ถูกบันทึกไว้ในตำรายาสมุนไพรต่างๆตราบนั้นเป็นต้นมา ในตำรายาจีน น้ำนมถั่วเหลืองเป็นตัวช่วยขับปัสสาวะขับพลังชี่ให้ลดลง ควบคุมความเจ็บป่วยเนื่องจากอากาศร้อน และล้างพิษ ซึ่งมีบันทึกอยู่ใน“BencaoGangmu” (Compendium of Materia Medica) โดยเภสัชกรชาวจีนที่มีชื่อเสียงในสมัยราชวงศ์หมิง (1368-1644) ชื่อว่า หลี่ สือเจิน (Li Shizhen) บันทึกไว้ว่าถั่วเหลืองเป็นพืชที่มีโปรตีนสูงซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายในร่างกายของคน ซึ่ง 95% ของโปรตีนในนมถั่วเหลืองสามารถดูดซึมหมดในร่างกายคน

นมถั่วเหลืองเหมาะสมที่จะดื่มแทนนมเพราะมีธาตุแคลเซียมอยู่สูง ถึงแม้จะมีธาตุแคลเซียมไม่เทียบเท่าในนม แต่ธาตุแคลเซี่ยมในนมถั่วเหลืองสามารถดูดซับได้ง่ายกว่าในร่างกายคน

นอกจากนั้นนมถั่วเหลืองยังอุดมไปด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิเช่น Lecithin, isoflavone, oligose และ fiber ซึ่งช่วยชะลอความแก่ ทำให้ Hormone สมดุล ลดภาวะการเกิดอาการของวัยทอง
ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันเส้นเลือดแดง โรคเบาหวาน บรรเทาความดันโลหิตสูง และโรคอ้วน เป็นต้น

สูตรการทำน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลืองด้วยตัวเอง

1. นำถั่วเหลือง 1 ถ้วย แช่น้ำไว้หนึ่งคืน เมื่อพองเป็นสองเท่าแล้วให้เติมน้ำสะอาด 5 ถ้วย แล้วนำไปปั่นให้ละเอียด
2. จากนั้นกรองด้วยผ้าขาวบาง 2-3 ชั้น นำน้ำที่ได้ไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ จนกระทั่งเดือด
3. เคี่ยวต่อประมาณ 20 นาที เมื่อเดือดอีกครั้งอย่าปิดไฟทันที เพราะระหว่างนี้น้ำเต้าหู้จะยังเหม็นเขียวอยู่ ควรเคี่ยวต่อไปอีกประมาณ 20 นาที

หากต้องการความหวาน สามารถเติมน้ำตาล หรือน้ำผึ้งดอกไม้ป่าลงไปได้ แต่แนะนำไม่ต้องเติมดีกว่า หลังจากนั้น เก็บไว้ในตู้เย็น หากต้องการรับประทาน ให้นำมาอุ่น แล้วค่อยเติมความหวานลงไปก่อนรับประทาน เพื่อให้สามารถเก็บนมถั่วเหลืองไว้ได้นานยิ่งขึ้น

สูตรนมถั่วเหลืองผสมน้ำผึ้งลดภาวะอาการวัยทอง

1. น้ำนมถั่วเหลืองสูตรไร้น้ำตาล 1 ถ้วย น้ำไปอุ่น

2. เติมน้ำผึ้งดอกไม้ป่าลงไป 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน

3. ดื่มหลังอาหารเช้า และก่อนนอน ทุกวัน

ในน้ำนมถั่วเหลือง และน้ำผึ้ง จะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงในช่วงอายุ 40 ขึ้นไป โดยเฉพาะช่วงวัยทอง จะลดอาการของวัยทองต่าง ๆ ได้ และชะลอวัย คืนความสดชื่น เสริมสร้างแคลเซียม และเสริมฮอร์โมน ทำให้ชะลอวัยได้ดี

ข้อแนะนำ 
ผู้หญิงอายุ 30--35 ปี ทานแค่วันละ 1 แก้ว หลังอาหารเช้า ช่วยทำให้สดชื่น แจ่มใส มีพลัง เสริมสร้างกระดูก ชะลอวัย ผิวพรรณสดใส กระตุ้นการขับถ่าย

ผู้หญิงอายุ 36-40 ปี ทานวันละ 1 แก้ว หลังอาหารเย็น หรือก่อนนอน ทำให้นอนหลับสนิท ลดอาการอ่อนเพลีย เสริมสร้างกระดูก ชะลอวัย ผิวพรรณสดใส

ผู้หญิงอายุ 41 ปีขึ้นไป ทานวันละ 2 แก้ว หลังอาหารเช้า และก่อนนอน ทำให้ชะลอวัย ลดอาการวัยทอง เสริมสร้างกระดูก คอลาเจน ผิวพรรณสดใส


สูตรนมถั่วเหลืองกับมะนาวกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน จาก นพ.สมเกียรติ อธิคมกุลชัย

1. น้ำนมถั่วเหลืองแช่เย็น 1 แก้ว ผสมกับน้ำมะนาวเย็นเย็น 1 ลูก คนให้เข้ากัน จะได้ลักษณะคล้ายโยเกิร์ตเหลว รสชาตคล้ายโยเกิร์ต แต่มีกลิ่นหอมมะนาว

2. ดื่มให้หมดทันทีทุกเช้าเป็นประจำวันละ 1 แก้ว ก่อนอาหารเน้นกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

สูตรนี้ เป็นอาหารเสริมสุขภาพของร่างกาย บำรุงกระดูก สมอง และสายตา

หากดื่มเป็นประจำทุกวัน มีสรรพคุณที่โดดเด่นดังต่อไปนี้ คือ

1. ช่วยให้ระบบเส้นเลือดฝอยทั่วร่างกาย มีความยืดหยุ่นดี ไม่เปราะหรือแตกง่าย ดังนั้น คนที่มีปัญหาเส้นเลือดฝอยเปราะ แตกง่าย และมีเลือดออกตามร่างกาย เช่น เลือดออกที่ใต้เยื่อบุตาขาว หรือในผู้หญิงที่มักจะเกิดรอยจ้ำเขียวช้ำเวลาถูกกระทบกระแทก หรือในผู้สูงอายุที่มักจะมีเลือดออกใต้ผิวหนัง ก็ช่วยให้ดีขึ้น และยังเชื่อว่าสามารถป้องกันโรคเส้นเลือดในสมองตีบตันหรือแตกได้เช่นกัน
( ป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต )

2. ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง ต้านทานโรคติดเชื้อได้ดี ไม่เจ็บป่วยง่าย เช่น ในคนที่เป็นโรคเริมที่ริมฝีปากหรือบริเวณอวัยวะเพศ จะช่วยลดหรือหยุดการกำเริบซ้ำได้ หรือในรายที่ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี เป็นไข้ ไอ เจ็บคอบ่อยๆ ก็จะช่วยให้อัตราการป่วยลดลงได้เช่นกัน

3. ช่วยส่งเสริมระบบไหลเวียนเลือด ทำให้อวัยวะต่างๆของร่างกายทำงานได้เต็มที่ สมองแจ่มใส ไม่มึนงง ร่างกายสดชื่น ( ผู้สูงอายุที่มีอาการมึนงง เซื่องซึม และเดินเซ จะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นชัดเจน ) สามารถทนต่อการทำงานตรากตรำที่ต้องอดหลับอดนอนได้ดีขึ้น เช่น นักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ต้องคร่ำเคร่งใช้สมองทบทวนตำราใกล้สอบ หรือผู้ที่ต้องทำงานหรือขับรถทางไกลในเวลาค่ำคืนเป็นประจำ

4. ช่วยให้เนื่อเยื่อต่างๆของร่างกายแข็งแรง สามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ดี บาดแผลทุกชนิดจะหายเร็วขึ้น และช่วยให้รากผมแข็งแรง บรรเทาปัญหาผมร่วงในหญิงวัยทองได้

5. เมื่อสุขภาพโดยรวมดีขึ้น ก็จะทำให้สมรรถภาพทางเพศดีตามไปด้วย

6. จากคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ของวิตามินซีในมะนาว และสารไอโซฟลาโวนในถั่วเหลือง ทำให้เชื่อได้ว่า การดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เป็นประจำ อาจจะป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย

นมถั่วเหลืองประโยชน์มากมายขนาดนี้มาดื่มกันเถอะค่ะ

โปรโมชั่นวันแม่ #HoneyForMon


30 กรกฎาคม 2558

1 ทางเลือกภูมิแพ้รักษาได้ (1 Alternative Allergy Treatment)


โรคภูมิแพ้กับคนกรุงเทพ ป็นโรคยอดฮิต เรียกว่า โรคภูมิแพ้อยู่คู่กับคนกรุงเทพเลยทีเดียว ฮิตขนาดมีการแต่งเพลงที่เปิดกันทั่วบ้านทั่วเมือง ที่คุณเองก็ต้องนึกออกว่าเพลงนั้นคือเพลงอะไร
เพลง ภูมิแพ้กรุงเทพ ... ซึ่งในเนื้อเพลง ก็มีบอกสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ ทั้งฝุ่น ควัน อากาศเสียที่มีในปริมาณมากในกรุงเทพ ส่งผลต่อสุขภาพของคนกรุงแบบเรา ๆ

ก่อนอื่นที่เราชอบพูดกันว่า แพ้อากาศ แพ้ฝุ่น แพ้อาหาร หรือกระทั่งโรคหอบหืดของเด็ก ๆ อาการเหล่านี้ ก็คือ โรคภูมิแพ้ ....


โรคภูมิแพ้คือ โรคที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีภูมิไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งในคนปกติเมื่อได้รับสารก่อภูมิจะไม่เกิดอาการ แต่ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ เมื่อได้รับสารที่ก่อภูมิแพ้จะมีอาการทันที เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ตาอักเสบจากภูมิแพ้ หายใจคัด หอบหืด หรือ บวมตามผิวหนัง ผื่นภูมิแพ้ขึ้นที่ผิวหนังเป็นต้น

โรคภูมิแพ้ยังเป็นโรคที่ถ่ายทอดทางกรรมพันธุ์ หากมีพ่อหรือแม่เป็น ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึง 66% เลยทีเดียว

แล้วโรคภูมิแพ้หายขาดได้หรือไม่ เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบมากที่สุด ซึ่งคุณหมอ ก็มักจะตอบว่า เมื่อผู้ป่วยโตขึ้นเป็นผูใหญ่อาการภูมิแพ้จะดีขึ้น หายได้ แต่จะไม่หายขาด หากผู้ป่วยยังได้รับสารก่อภูมิแพ้อยู่เรื่อย ๆ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หรือเรารู้ว่าแพ้อะไรก็พยายามหลีกเลี่ยง ก็จะสามารถหายขาดจากโรคภูมิแพ้นี้ได้

แต่ความจริงแล้ว ตามหลักของแพทย์แผนตะวันออก หรือนักธรรมชาติบำบัด จะพยายามให้ผู้ป่วยเข้าใจเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ว่า... เราสามารถลดความเร็วหรืออัตราการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ด้วยการเสริมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ให้เลือดสะอาดมีการปนเปื้อนของสารก่อภูมิแพ้น้อยที่สุด และให้มีเม็ดเลือดที่แข็งแรง มีเมล็ดเลือดขาวที่สมบูรณ์ เรียกว่ามีระบบภูมิคุ้มกันที่พร้อมรับทุกสถานะการณ์อย่างเต็มที่
เมื่อ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ มีระบบภูมิคุ้มกัน ที่ดี เมื่อได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย เม็ดเลือดขาวจะทำงานขจัดสารก่อภูมิแพ้นั้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อาการแพ้น้อยลง หรือไม่เกิดอาการได้

ซึ่งหลักการทางธรรมชาติบำบัดคือ ....
การเลือกรับประทานอาหาร หรืออาหารเสริมภูมิต้านทาน หรืออาหารกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ...นั้นเอง
เพียง 1 วิธีง่าย ๆ คือ การดื่มน้ำผักผลไม้ปั่นสดเป็นประจำทุกวัน เพื่อ ผัก ผลไม้ ที่มีวิตามินซีสูง มีธาตุเหล็กสูง มีสารแอนตี้ออกซิเดนท์สูง เพื่อบำรุงเลือด กำจัดของเสียออกจากเลือด และเสริมสร้างเม็ดเลือดให้สมบูรณ์ ซึ่งเป็นการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงนั้นเอง ส่วนการแพทย์แผนตะวันออกจะให้มีการรับประทานเอนไซม์เสริมอาหาร เพื่อช่วยเม็ดเลือดขาวในการขจัดสิ่งแปลกปลอมหรือของเสียออกจากร่างกายให้เร็วที่สุด ทำให้ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้หายเร็วขึ้นอีกด้วย

สูตรน้ำผักผลไม้ปั่นเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ของดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงศ์

น้ำผักผลไม้ปั่นพลังเอนไซม์บำบัด
มีส่วนประกอบดังนี้
1. ผักกาดขาว  4 ก้าน
2. หัวหอม 1/4 หัว(ขนาดกลาง)
3. มะเขือเทศ 1 ลูก (ขนาดใหญ่)
4. แอปเปิ้ลเขียว 1 ผล (ขนาดกลาง)
5. คื่นช่าย 1 ก้าน (ขนาดกลาง)
6. มะนาว 1 ลูก (บีบเอาน้ำมะนาวและใส่เปลือกมะนาวลงไปเล็กน้อย)
7. น้ำสะอาด 1 ลิตร
8. น้ำผึ้งดอกไม้ป่า 1 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำพลังเอนไซม์บำบัด 2 ช้อนโต๊ะ

ปั่นส่วนผสม 1-8 รวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน แล้วค่อยเติมน้ำพลังเอนไซม์บำบัดลงไป ค่อย ๆ ดื่มให้หมดภายใน 1 ชั่วโมง หรือแบ่งดื่ม 2 เวลา เช้า และก่อนนอน ทุกวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน จะเห็นความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพที่ดีขึ้น

สูตรนี้ สำหรับเด็ก ๆ สามารถกรองเอากากออกแล้วดื่มก็ได้ค่ะ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ดื่มเป็นประจำสุขภาพแข็งแรง อาการหวัด คัดจมูก ภูมิแพ้จะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ

รู้แบบนี้ ภูมิแพ้ของคนกรุงเทพ คงดีขึ้นได้นะค่ะ หากทุกคนหันมาดื่มน้ำผักผลไม้ปั่นเป็นประจำ ขอให้สุขภาพแข็งแรง หากไกลโรคนะค่ะ
น้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้จากทางภาคเหนือของไทย อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ เอนไซม์ และฮอร์โมน ที่ร่างกายต้องการ
ขนาด 1200 กรัม ราคาเพียง 300 บาท เท่านั้น
สั่งซื้อได้ที่ไลน์ไอดี @qwd5997q อีเมล์ tusora@gmail.com

29 กรกฎาคม 2558

เอนไซม์ในอาหารกับสุขภาพ (Enzyme Food Health)

อาหารนอกจากจะให้พลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว รู้ไหมว่า...มนุษย์เรายังต้องการอาหารเพื่อเป็นแหล่งให้ "เอนไซม์" เข้าสู่ร่างกายอีกด้วย  เพื่อเสริมสร้างและแบ่งเบาภาระการทำงานของเอนไซม์ในร่างกาย

ความสำคัญของ "เอนไซม์" ในอาหาร ยังไม่เป็นที่ตระหนักหรือเข้าใจกันอย่างแพร่หลาย เพราะคำว่า "เอนไซม์" คนทั่วไปไม่ค่อยเข้าใจหรือรู้จักกันมากนัก รู้แต่น้ำย่อย หรือกรดในกระเพาะอาหารที่ช่วยในการย่อยอาหาร อีกทั้ง ภาวะการขาดเอนไซม์ของร่างกาย ยังไม่มีอาการเด่นชัด หรือชัดเจนอย่างกับการขาดสารอาหารประเภทอื่น ๆ

แต่อย่างไรก็ตาม นักวิชาการ หรือนักโภชนาการบำบัด และแพทย์จำนวนไม่น้อยที่เห็นถึงความสำคัญของเอนไซม์ต่อสุขภาพร่างกาย การใช้เอนไซม์ที่ร่างกายสร้างขึ้นมาอย่างสิ้นเปลือง โดยไม่มีการรับเอาเอนไซม์จากอาหารเข้าสู่ร่างกาย จะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพมากมาย โดยเป็นสาเหตุที่แอบแฝงอยู่ของการเกิดโรคที่ร้ายแรงนานานัปการ อาทิเช่น โรคเรื้อรังต่าง ๆ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ โรคไขมันในเส้นเลือด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคตับ เป็นต้น

เราจะสามารถได้รับ "เอนไซม์" จากการกินอาหารดิบ หรืออาหารที่สดใหม่ ไม่ผ่านการปรุงหรือผ่านความร้อนจึงจะได้รับเอนไซม์เท่านั้น

ดังนั้น การบริโภคอาหารสดอาหารดิบ ไม่ว่าจะเป็น พืช ผัก และผลไม้ หรือแม้แต่เนื้อสัตว์ ปลาดิบ ก็ตาม จะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นการเพิ่ม "เอนไซม์" ให้กับร่างกายดีที่สุด จะต้องบริโภคอาหารดิบ โดยปริมาณของอาหารดิบในแต่ละวันคือ 50% ของอาหารทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตาม การบริโภคอาหารสดอาหารดิบต้องสะอาดปลอดภัยไร้สารเคมี และเชื้อโรคด้วย จึงจะดีต่อสุขภาพ

ในศาสตร์การแพทย์ทางเลือก พบว่าโรคเรื้อรัง หรือโรคที่รักษาให้หายได้ยาก ส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุ 2 ประการ คือ

1. เนื่องจากร่างกายขาดเอนไซม์ หรือได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่เรามักมองข้ามไป การขาดเอนไซม์หรือการขาดสารอาหารจะส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงได้เร็วขึ้น

2. เนื่องจากสารหรือสิ่งที่ก่อให้เกิดโรค เช่น สารพิษ สารเคมี และเชื้อโรค  สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ จะก่อให้เกิดโรคได้เมื่อเข้าสู่ร่างกายเราในสภาวะที่ร่างกายอ่อนแอ ร่างกายขาดเอนไซม์หรือสารอาหารไม่เพียงพอต่อการป้องกันกำจัดของเสีย และเชื้อโรค

นักโภชนาการบำบัดของกลุ่มแพทย์ทางเลือก ได้มีการทดสอบให้ผู้ป่วยกว่า 200 คน ให้รับประทานอาหารสด อาหารดิบ ต่อเนื่องกันนาน 6 เดือน เพื่อประโยชน์ในการบำบัดรักษาโรคบางชนิด พบว่า การกินอาหารดิบ สดใหม่ จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของเซลล์ ช่วยให้อัตราการเผาผลาญพลังงานเป็นปกติ ช่วยลดและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม การฟื้นฟูอาการของโรค การรักษาอาการโรคเรื้อรังต่าง ๆ ให้ผลการรักษาที่ดีขึ้น ผู้ป่วยมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีอาการของโรคลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

 "เอนไซม์" ในอาหารดิบ (พืช ผัก และผลไม้) ที่ไม่ถูกทำลาย เมื่อเรารับประทานเข้าไป เอนไซม์เหล่านั้นจะช่วยในการย่อยอาหาร ดูดซึมสารอาหาร และเผาผลาญพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องอาศัยเอนไซม์ที่ร่างกายผลิตขึ้น จึงไปลดการทำงานของร่างกาย เช่น ตับอ่อน ที่ทำหน้าที่ในการผลิตเอนไซม์ ลดความเหนื่อยล้าของเซลล และประหยัดเอนไซม์สำรองในร่างกาย จึงทำให้เอนไซม์ที่มีเพียงพอต่อการขจัดของเสียออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายสดชื่นแข็งแรงขึ้น

ดังนั้น คำกล่าวที่ว่า You are What you eat กินอะไรได้อย่างนั้น จึงเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลรักษาสุขภาพ อาหารจึงเป็นสิ่งที่คุณจะต้องเลือกรับประทาน เพื่อดูแลสุขภาพของคุณ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคของคุณ เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ในการฟื้นฟู ดูแล รักษา บำบัดร่างกาย รู้แบบนี้แล้วจะหันมาบริโภคอาหารดิบ สดใส พืช ผัก ผลไม้ กันได้หรือยังค่ะ สำหรับ การดูแลแนวธรรมชาติบำบัด แนะนำให้คุณดื่ม น้ำผักผลไม้ปั่น เป็นประจำทุกวัน วันละ 2 ลิตร เพื่อเสริมเอนไซม์ และสารอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน หรือเลือกที่จะเสริมเอนไซม์ด้วย น้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้นานาชนิด ที่อุดมไปด้วยเอนไซม์ และสารอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ ที่จำเป็นต่อร่างกาย
เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูและสุขภาพของคุณ...
ดูสูตรน้ำผักผลไม้ปั่น เสริมเอนไซม์และสารอาหารได้ที่.....http://friutenzyme.blogspot.com/2009/08/blog-post_21.html
ดูรายละเอียดของ น้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้ หรือน้ำพลังเอนไซม์บำบัด ได้ที่....https://www.facebook.com/media/set/?set=a.291448154321937.1073741828.289410941192325&type=3



27 กรกฎาคม 2558

เอนไซม์มะเฟืองปรับสมดุลย์หน้า Star Fruit Enzyme Toner Spray



สเปรย์น้ำหมักเอนไซม์มะเฟืองปรับสมดุลผิวหน้า

ผลิตจากการหมักมะเฟืองกับน้ำผึ้งนานกว่า 4 ปี เพื่อให้ได้น้ำหมักเอนไซม์มะเฟืองที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และกรดเอเอชเอจากผลไม้ ช่วยในการทำความสะอาดผิวหน้า ฟื้นฟูปรับสภาพผิวที่หมองคล้ำได้อย่างอ่อนโยน เผยผิวขาวกระจ่างใสขึ้นอย่างชัดเจน กระชับรูขุมขน ลดเลือนจุดด่างดำ ลดความมัน ลดการเกิดสิวทุกชนิด ลดผดผื่น ลดรอยแผลเป็น อ่อนโยนต่อผิว ปราศจากแอลกอฮอล์ และสารเคมี
เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผลิตภัณฑ์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน - ผิวผสม ผิวมันทีโซน ไม่แนะนำสำหรับคนผิวแห้งค่ะเพราะจะทำให้ผิวแห้งตึงจนเกินไป

วิธีใช้
ฉีดพ่นหลังล้างหน้าทุกวัน เช้าและก่อนนอน หากต้องการให้ผิวสดชื่นขึ้น สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
• ลดความมัน ลดการอักเสบของสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวผด สิวผื่น สิวเสี้ยน บนใบหน้า
• ผลัดเซลล์ผิวคล้ำให้หลุดออก ลดการเกิดเม็ดสี ลดรอยหมองคล้ำบนใบหน้า
• ช่วยสมานรอยแผนเป็น กระชับรูขุมขนให้เล็กลง เผยผิวหน้าเรียบ เนียน ใสขึ้น
• ปลอดภัยจากสารเคมีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีอันตรายต่อผิวหน้า


ส่วนประกอบที่สำคัญ: Star Fruit Extract, Vitamin B3, Vitamin E, Witch Hazel

สนใจสั่งซื้อได้ทางไลน์ tu-bgood หรืออีเมล์ tusora@gmail.com

23 กรกฎาคม 2558

ทางเลือกใหม่ของการดูแลสุขภาพวิถีเอนไซม์บำบัด Enzyme Therapy


เอนไซม์บำบัด (Enzyme Therapy) เป็นศาสตร์การแพทย์แผนทางเลือกที่ได้รับการยอมรับจากการแพทย์แผนตะวันออก มีการใช้เอนไซม์จากสับปะรดในการรักษาแผลเปื่อยเน่า มีการให้รับประทานเอนไซม์เสริมควบคู่ไปกับยาแก้อักเสบเพื่อช่วยให้แผลผ่าตัดหายไวขึ้น

ตลอดจนมีการใช้เอนไซม์ผลไม้เพื่อช่วยในการลดภาวะไขมันสูงในกระแสเลือด และอื่น ๆ อีกมากมายที่เอนไซม์มีบทบาทในการดูแลสุขภาพทางการแพทย์

สำหรับประเทศไทยเรา การใช้เอนไซม์สำหรับบริโภคก็พบได้ในอาหารจำพวกหมักดอง เช่น ผักดอง โยเกิรต์ ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซึ่งพบมาในอาหารหมัก ซึ่งมีรายงานการวิจัยว่า ช่วยลดอัตราการเป็นมะเร็ง และโรคหัวใจ อีกทั้งยังอุดมไปด้วยเอนไซม์ และจุลินทรีย์ชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย  ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยระบบการย่อย ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ ลดระดับคลอเลสเทอรอลในกระแสเลือดได้เป็นอย่างดี

ในตำราการแพทย์แผนโบราณ มีการใช้ น้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้ (น้ำมูลเน่า น้ำกระสายยา) ในการฟื้นฟูร่างกาย และรักษาโรค ซึ่งพบว่าผู้ป่วยที่รับประทานน้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้ (น้ำมูลเน่า) จะมีระยะฟื้นตัวได้เร็ว ลดอาการอ่อนเพลีย แผลหายเร็ว และช่วยรักษาโรคอ่อนเพลีย โรคอาหารไม่ย่อย โรคท้องผูกได้อีกด้วย

ดังนั้นจะเห็นได้ว่า น้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของสุขภาพในการฟื้นฟูดูแลสุขภาพของคุณ

สำหรับบ้านรักษ์สุขภาพ น้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้ หรือน้ำพลังเอนไซม์บำบัด เรามีด้วยกัน 3 สูตร ดังนี้

1. น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรผลไม้รวม Multi Fruit Enzyme ขนาด 750 มล. ราคา 350 บาท (ดื่มได้เป็นประจำ หรือสำหรับผู้เริ่มดื่มใหม่ ๆ หรือผู้ป่วย โรคเบาหวาน โรคความดัน โรคไขมัน)
2. น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเอ็นสองพัน N-2000 ขนาด 600 มล. ราคา 500 บาท (ดื่มเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ เหมาะกับผู้ป่วยเรื้อรังต่าง ๆ โดยเฉพาะ โรคมะเร็ง)
3. น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้น Premier Fruit Enzyme ขนาด 178 มล. ราคา 500 บาท (ดื่มเพื่อล้างสารพิษ หรือดีท๊อกซ์ เหมาะสำหรับผู้ต้องการลดของเสียในกระแสเลือด ลดการอักเสบแบบเร่งด่วน เช่น โรคต่อมทอนซินอักเสบ โรคไขมันในเลือดสูง)
แต่ละสูตร สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ตามความต้องการ
น้ำพลังเอนไซม์บำบัด หรือน้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้ สูตร ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงค์ ที่บ้านรักษ์สุขภาพ นั้น หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยฟื้นฟูอาการเจ็บป่วยและโรคต่าง ๆ ได้ดังนี้

1. น้ำพลังเอนไซม์บำบัด ช่วยในระบบการย่อยอาหาร (Digestion) และระบบดูดซึมอาหาร
- ช่วยย่อยอาหารในกระเพาะอาหาร และลำไส้
- ช่วยในการผลักดันสารอาหารเข้าสู่เซลล์

2. น้ำพลังเอนไซม์บำบัด ช่วยในการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต (Circulation)
- ป้องกันการเกิดก้อนลิ่มเลือด (Blood Clot)
- ลดความหนืดของเลือด โดยเพิ่มการกระจายตัวของเม็ดเลือดแดงในหลอดเลือด
- ลดการจับตัวของโคเลสเตอรอลที่ผนังหลอดเลือด
- เร่งการย่อยและขจัดไขมันเปลี่ยนไปเป็นพลังงานให้กับร่างกาย

3. น้ำพลังเอนไซม์บำบัด ช่วยลดการอักเสบ (Inflammation) 
- ช่วยกำจัดสิ่งแปลกปลอม เช่น เชื้อโรค และของเสียในเลือด เซลล์และเนื้อเยื่อ
- ช่วยช่วยซ่อมแซมเซลล์ และเนื้อเยื่อต่าง ๆ (Cell and Tissue Repair)

ซึ่งการทำงานหลัก ๆ ทั้ง 3 ข้อ ข้างต้น น้ำพลังเอนไซม์บำบัด หรือน้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้นั้น จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้รักสุขภาพ และต้องการฟื้นฟู ปรับสมดุลย์ของร่างกาย ลดภาวะความเสี่ยงต่ออาการโรคต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน โรคอ่อนเพลีย โรคไขมัน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ไลน์ tu-bgood หรืออีเมล์ tusora@gmail.com

20 กรกฎาคม 2558

2 แก้ว ต่อวัน ลดน้ำหนักด้วยน้ำมะนาว (2 cup Lemonade Weight Loss)


ลดน้ำหนักแบบง่าย ๆ ด้วยน้ำมะนาว

เคล็ดไม่ลับแบบง่าย ๆ ในการลดน้ำหนักของนางแบบสาวท่านหนึ่งคือ การดื่มน้ำมะนาว (เขียว/เหลือง) วันละ 2 แก้ว ดังนี้

แก้วแรก ตื่นเช้ามา ยังไม่ต้องแปรงฟันค่ะ ให้บีบมะนาว 1 ลูกลงในน้ำอุ่น 1 แก้ว พร้อมแช่เปลือกมะนาวลงไป ทิ้งไว้สัก 5 นาที เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยจากเปลือกของมะนาวระเหยและละลายออกมาผสมในน้ำ อีกทั้งสารแทนนินรสขมจากเปลือก จะช่วยให้เจริญอาหาร รสเปรี้ยวจากน้ำมะนาวจะช่วยชะล้างเมือกมันในทางเดินอาหาร กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ และน้ำมันหอมระเหยจากเปลือกมะนาวจะช่วยดีท๊อกซ์ กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทำให้สดชื่นกระชับกระเฉง กระปรี้กระเปร่าอีกด้วย

แก้วที่สอง หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ให้บีบมะนาว 1 ลูกลงในน้ำเย็น 1 แก้ว พร้อมกับแช่เปลือกมะนาวลงไป ทิ้งไว้สัก 10 นาที แล้วค่อยดื่ม น้ำเย็นและน้ำมะนาวจะช่วยกระตุ้นการย่อยอาหาร ทำให้ระบบการเผาผลาญและการย่อยอาหารดีขึ้น

มาลองทำแบบนี้ดูสัก 1 เดือน จะเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของคุณ พร้อมกับระบบต่าง ๆ ของร่างกายดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากเว็บกระปุก
ขอบคุณภาพประกอบจากกูเกิ้ล


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักสุขภาพ ต้องการฟื้นฟูสุขภาพ และชื่นชอบการดีท๊อกซ์ หรือล้างพิษจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เอนไซม์ แร่ธาตุ วิตามิน ด้วยน้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้น Premier Fruit Enzyme   ที่ผลิตจากผลไม้นานาชนิดมากกว่า 20 กว่าชนิด อุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เอนไซม์ วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการชำระล้างของเสียในกระแสเลือด ช่วยฟื้นฟูเซลล์ ระบบการย่อย ระบบขับถ่าย และระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้เซลล์อ่อนกว่าวัย..

น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้น ขนาด 178 ml ราคา 500 บาท 

โปรโมชั่นวันนี้ ซื้อ 6 แถม 1 ในราคา 3000 บาท (ไม่รวมค่าจัดส่ง)
ติดต่อสั่งซื้อได้ที่ไลน์ tu-bgood หรืออีเมล์ tusora@gmail.com



16 กรกฎาคม 2558

10 สัญญาณเมื่อร่างกายขาดเอนไซม์ (10 Signs Enzyme Deficiency)


เอนไซม์เป็นกลุ่มของโปรตีนที่สำคัญในร่างกาย ช่วยในกระบวนการย่อยอาหาร เสริมสร้างกล้ามเนื้อ ฮอร์โมน และขจัดของเสียออกจากร่างกาย

เอนไซม์และโคเอนไซม์จำทำหน้าที่ในปฏิกิริยาชีวเคมีในร่างกายทุก ๆ ปฏิกิริยา ช่วยให้เซลล์ อวัยวะ กล้ามเนื้อ และร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติสมบูรณ์

เอนไซม์ในร่างกายมาจาก 2 แหล่งคือ
1. เอนไซม์จากตับอ่อน ที่ร่างกายผลิต เป็นสต๊อกเอนไซม์ที่มีวันหมดไปได้ เมื่ออายุมากขึ้น
2. เอนไซม์จากอาหาร ที่เรารับประทานเข้าไป แต่หากเรารับประทานแต่อาหารปรุงสุก ผ่านความร้อนแต่เพียงอย่างเดียว ปริมาณเอนไซม์ที่ได้รับก็น้อยมาก จนไม่เพียงพอในการใช้

ซึ่งหาก ร่างกายเราขาดเอนไซม์ เซลล์และอวัยวะต่าง ๆ จะทำงานไม่สมบูรณ์ก่อให้เกิดการสะสมคั่งค้างของของเสีย เซลล์อ่อนแอ เสื่อมสภาพ แก่ก่อนวัย และเกิดโรคเสื่อม หรือโรคเรื้อรังต่าง ๆ ได้


10 สัญญาณที่เราควรสังเกตุว่า ร่างกายขาดเอนไซม์แล้วหรือยัง มีดังนี้

1. รู้สึกเพลีย เหนื่อยหลังจากกินอาหารมื้อหนัก
2. อ่อนเพลียเป็นประจำ
3. ท้องผูก
4. ท้องขึ้น ท้องเฟือ บางครั้งมีอาการจุกเสียด
5. ลมแน่นท้อง ผายลมมีกลิ่นเหม็นมาก
6. อุจจาระเหม็นมาก
7. มีกลิ่นปาก
8. มีอาการของโรคภูมิแพ้มาก
9. เวลาเป็นแผลหายช้า
10. น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นง่าย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่พบ 1 ใน 10 ข้อของสัญญาณที่แสดงว่ามีภาวะพร่องเอนไซม์ เราแนะนำให้คุณรับประทานผักผลไม้สดเพิ่มให้มากขึ้น โดยควรมีผักผลไม้สด 3 ใน 4 ส่วนของมื้ออาหารทุกมื้อ เพื่อเสริมเอนไซม์ หรือ คุณจะเสริมเอนไซม์ด้วยการดื่มน้ำเอนไซม์ หรือน้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรผลไม้รวม เพื่อเสริมเอนไซม์ ปรับสมดุลของร่างกาย ฟื้นฟูสุขภาพ ทำให้สุขภาพแข็งแรง มีชีวิตที่ดีก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนรักสุขภาพค่ะ

น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตร Multi Fruit Enzyme
ขนาด 750 ml
ราคา 350 บาท
พิเศษ กล่องละ 12 ขวด ราคาพิเศษวันนี้ 3700 บาท
 (ไม่รวมค่าขนส่ง)

น้ำหมักเอนไซม์สูตรนี้ ผลิตจากการหมักผลไม้รวมกว่า 20 ชนิดกับน้ำผึ้งดอกไม้ป่า มาหมักบ่มนานกว่า 6 ปี จนได้ขนาดโมเลกุลที่เล็กสามารถดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ง่าย มีประโยชน์ ดังนี้

เพิ่มภูมิคุ้มกัน สลายสารพิษ ฟอกเลือด ปรับสมดุล บำรุงธาตุต่าง ๆ ในร่างกาย ช่วยย่อยอาหาร สลายไขมัน ลดหน้าท้อง คลายกล้ามเนื้อ ดื่มก่อนนอนทำให้นอนหลับสบาย แก้ปวดเมื่อย ท้องผูก ท้องอืด ดื่มได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะผู้ป่วย ภูมิแพ้ ความดัน เบาหวาน สะเก็ดเงิน ไทรอยด์ รูมาตอยด์ ภูมิแพ้ SLE ไทรอยด์

ดื่มเป็นประจำ ช่วยในการฟื้นฟู ปรับสมดุลร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง

วิธีดื่ม น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรผลไม้รวม 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมในน้ำ 1 แก้ว ดื่มก่อนอาหารอย่างน้อย 30 นาที เช้า กลางวัน เย็น หรือจะดื่มก่อนนอนก็ช่วยให้หลับสบาย (ไม่ต้องเขย่าขวดก่อนดื่ม)

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ tu-bgood หรืออีเมล์ tusora@gmail.com หรือ www.facebook.com/friutenzyme

15 กรกฎาคม 2558

มหัศจรรย์น้ำขิงพลังบำบัด

น้ำขิง เป็นน้ำสมุนไพรที่อยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่โบราณ เป็นที่นิยมกันมานาน สำหรับสูตรน้ำขิงพลังบำบัดนั้น เป็นสุตรที่ทางบ้านรักษ์สุขภาพ ได้มาจาก นักชีวจิตท่านหนึ่ง ที่ให้สูตรมา สำหรับคนที่ไม่ชอบทานน้ำขิง แต่สูตรนี้ รับประทานได้ง่าย อร่อย และมีประโยชน์อีกด้วย


สูตร น้ำขิงพลังบำบัด
ส่วนผสม
1. ขิงแก่ 100 กรัม ประมาณ 1 แง่ง
2. ผิวมะนาวเหลือง ขูดเป็นเส้น ๆ พอประมาณ
3. น้ำสะอาด 1 ลิตร

วิธีทำ
1. นำน้ำสะอาด 1 ลิตร ไปต้มให้เดือด
2. ล้างขิงให้สะอาด ทุบ บุบ ให้พอแตก แล้วใส่ลงไปในหม้อ น้ำเดือด ทิ้งไว้ 5 นาที
3. ปิดไฟ ยกลง แล้ว เอาผิวมะนาวเหลืองที่ขูดไว้ใส่ลงไป ทิ้งไว้ 10 นาที
4. กรองเอาแต่น้ำ นำใส่ขวดแก้ว แช่ในตู้เย็น 5 -7 วัน แล้วนำมาจิบดื่มเพื่อสุขภาพ

วิธีรับประทาน
1. จิบเย็น ๆ ดื่มได้ตลอดทั้งวันแทนน้ำเปล่า ช่วยขับลม แก้ท้องอืด 
2. นำมาอุ่น เติมน้ำผึ้งดอกไม้ป่าลงไป ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย ความดันต่ำได้ดี
3. นำมาอุ่น บีบมะนาว หรือฝ่านมะนาวเป็นแว่น ๆ ลงไป ช่วยให้สดชื่น ขับลม แก้กระหาย ลดอาการระคายคอ

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ไลน์ tu-bgood

13 กรกฎาคม 2558

มหัศจรรย์เอนไซม์ ฟื้นฟูปรับสมดุลในร่างกาย


จากบทความของ ดร. วนิดา  ธนประโยชน์ศักดิ์ แห่ง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเรื่อง "ความมหัศจรรย์ของเอนไซม์ช่วยบำบัดโรคในร่างกาย"

กล่าวไว้ว่า  เอนไซม์ เปรียบเสมือนกับสิ่งที่เป็นตัวจุดประกายของชีวิตที่อยู่ในร่างกาย ถ้าหากในร่างกายของท่านไม่มีเอนไซม์ ท่านก็ไม่สามารถย่อยอาหาร และดูดซึมอาหารไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้และในที่สุดท่านก็จะอ่อนแอ เกิดภาวะโรคภัยต่าง ๆ ตลอดจนตายได้

ดังนั้น เอนไซม์ จึงเป็นตัวช่วยเร่งปฏิกิริยาเคมี ซึ่งจะทำงานร่วมกับ โคเอนไซม์ โคเอนไซม์ในที่นี้ก็คือ พวกวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย นั่นเอง หลายท่านอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนว่า วิตามินนั้นไม่สามารถกระตุ้นให้ทำงานได้ถ้าหากว่าไม่ได้ ทำงานร่วมกับเอนไซม์ 

ดร.เอ็ดเวิร์ด เฮาเวลล์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการ ซึ่งเป็นบุคคลแรกที่ได้มีการ ศึกษาเกี่ยวกับเอนไซม์ในช่วงระหว่าง ปี พ.ศ. 2476 - 2486 กล่าวว่า "เรามีแหล่งพลังงานจากเอนไซม์ มาตั้งแต่แรกเกิด เปรียบเสมือนกับแบตเตอรี่อันใหม่ เมื่อใช้ไประยะหนึ่ง แบตเตอรี่ดังกล่าวก็จะหมดอายุ การใช้งานไป ร่างกายเราก็เช่นกัน ถ้าหากมีการใช้แหล่งพลังงานจากเอนไซม์ไปมากเท่าไหร่ ชีวิตเราก็จะ สั้นมากขึ้นเท่านั้น"

เนื่องจากเรามีแหล่งพลังงานจากเอนไซม์ที่จำกัด แหล่งพลังงานนี้ก็จะสูญหาย ไปได้ เรื่อย ๆ จากนิสัยการบริโภคอาหารของเรา เช่น การรับประทานอาหารที่ปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ มาก มาย การดิ่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การรับประทานยา หรือแม้แต่การรับประทานอาหารขยะ หรือพวกฟาสต์ฟูด ก็มีส่วนในการทำลายเอนไซม์ในร่างกายของเราทั้งสิ้น

ท่านอาจจะได้ยินประโยคนี้กันอยู่บ่อย ๆ ว่า "You are what you eat" แต่แท้ที่จริงแล้ว มีส่วนที่ถูกต้องเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งความจริงก็คือว่า "Your eat what you are" ต่างหากนั่นเอง

รู้ไหมค่ะว่า หน้าที่ที่แท้จริงของเอนไซม์ คือ การย่อยอาหาร สลายสารพิษ ทำให้เลือดสะอาด ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง กระตุ้นสร้างโปรตีนในกล้ามเนื้อ ช่วยให้กล้ามเนื้อหดตัว กำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากปอด และลดความเครียดของตับอ่อนและอวัยวะอื่นๆ  

เอนไซม์ที่ได้จากอาหาร แบ่งเป็น 7 ประเภท คือ

  1. ไลเพส (Lipase) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายอาหารจำพวกไขมัน
  2. โพรทีเอส(Protease) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายอาหารจำพวกโปรตีน 
  3. เซลลูเลส(Cellulase) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายอาหารพวกเส้นใยพืชต่าง ๆ 
  4. อะไมเลส(Amylase) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายอาหารจำพวกแป้ง 
  5. แลกเทส(Lactase) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายอาหารจำพวกนม 
  6. ซูเครส(Sucrase) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายอาหารจำพวกน้ำตาล  
  7. มอลเทส (Maltase) เป็นเอนไซม์ที่ช่วยสลายอาหารจำพวกเมล็ดข้าว เป็นต้น 

ดังนั้น การรับประทานอาหาร ผัก ผลไม้สด จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการที่ร่างกายจะได้รับ เอนไซม์ เข้าสู่ร่างกาย เพื่อให้เอนไซม์ที่เรารับประทานเข้าไปนั้น ไปเสริมการทำงานของเอนไซม์ที่มีอยู่แล้วในร่างกายให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยใน การรักษา ฟื้นฟู ป้องกันสุขภาพได้อีกด้วย

ดร.เอ็ดเวิร์ด เฮาเวลล์ ยังได้ค้นพบว่าคุณภาพชีวิตและระดับพลังงานในร่างกายของเรานั้นขึ้นอยู่กับ ปริมาณเอนไซม์ อีกด้วย
ถ้าหากร่างกายของเรามีเอนไซม์อยู่น้อยก็จะทำให้เรามีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพด้วย ซึ่งมีผู้ประมาณการเอาไว้อีกว่าประมาณร้อยละ 80 ของโรคในร่างกายมีสาเหตุมาจาก ร่างกายไม่สามารถย่อย อาหารได้ และนอกจากนี้สารบางอย่างซึ่งเป็นพวกสารปนเปื้อนในอาหารก็จะถูกร่างกายดูดซึมเข้าไปด้วย

เรามีแหล่งเอนไซม์ที่สะสมมาตั้งแต่แรกเกิด ซึ่งตับ และตับอ่อนก็สามารถผลิตได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ปริมาณของเอนไซม์ที่สะสมจะลดลงเรื่อยๆ และร่างกายก็จะมีการเสื่อมตามวัย ส่งผลให้การผลิตเอนไซม์ลดลง ตามช่วงของอายุ ดังนั้นจึงมักพบว่าในผู้ใหญ่ ประสิทธิภาพในการผลิตเอนไซม์ของร่างกายจะลดลงทำให้เกิดปัญหาของการ พร่องเอนไซม์ในร่างกาย และนอกจากนี้สาเหตุของการขาดเอนไซม์ยังเกิดจากการที่เอนไซม์สูญเสียสภาพ ไป อันเนื่องมาจากการผ่านขั้นตอนต่างๆ ในกระบวนการปรุงอาหาร โดยเฉพาะความร้อน เป็นต้น

เราจึงต้อง มีการเพิ่มปริมาณเอนไซม์ให้กับร่างกายของเรา ซึ่งพบว่ามีอยู่ 2 วิธีด้วยกัน ดังนี้

1. ในวันหนึ่งๆ เราควร รับประทานอาหารจำพวกผักสดและผลไม้สดให้ได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของอาหารทั้งหมดที่เรารับประทาน เข้าไป เพื่อร่างกายของเราจะได้ไม่ขาดเอนไซม์และสุขภาพร่างกายของเราก็จะดีด้วย ซึ่ง น้ำผักผลไม้ปั่นพลังเอนไซม์ สูตรบ้านรักษ์สุขภาพ ของดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงค์ เป็นการเติม เอนไซม์จากผัก ผลไม้สด และโคเอนไซม์ จำพวกวิตามินต่าง ๆ ให้กับร่างกายดีที่สุด สามารถอ่านสูตรการทำได้ดังนี้..... น้ำผักผลไม้ปั่นพลังเอนไซม์ 

2. หาผลิตภัณฑ์เอนไซม์มาเสริมอาหาร เช่น น้ำหมักเอนไซม์บำบัด เอนไซม์ผง เป็นต้น มารับประทานเป็นประจำทุกวัน เพื่อเสริมเอนไซม์ที่สูญเสียไป เพื่อให้ร่างกายเราไม่ขาดเอนไซม์และสุขภาพร่างกายเราแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย




สนใจติดต่อสอบถาม พูดคุยเพิ่มเติมได้ที่ ไลน์ @qwd5997q

10 กรกฎาคม 2558

7 วิธีง่าย ๆ ล้างพิษลดอาการปวด (7 Detoxification of reduces pain)


อาการปวด เป็นสัญญาณขอความช่วยเหลือของร่างกายผ่านการทำงานของระบบประสาท บ่งบอกให้เรารู้ว่า ร่างกายมีการสะสมคั่งค้างของของเสียจำนวนมากอยู่ตามเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย และเซลล์มีภาวะอ่อนแอ จนไม่สามารถขับเอาของเสียเหล่านั้นออกจากร่างกายได้หมด ส่งผลให้ระบบการทำงานของเซลล์ อวัยวะต่าง ๆ และร่างกายเสียสมดุล ซึ่งเป็นที่มาของการเกิดอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย

นอกจากนี้ หากเราปล่อยให้ร่างกายยังคงคั่งค้างของเสียต่อไป เซลล์และอวัยวะต่าง ๆ จะเกิดการอักเสบอ่อนแอลง และเกิดโรคภัยต่าง ๆ ตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็น โรคเบาหวาน โรคปวดเมื่อยเรื้อรัง โรคความดันสูง โรคมะเร็ง....

ของเสียที่คั่งค้างในเซลล์นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ตามปกติแล้ว ส่วนใหญ่ที่รู้ ๆ กัน ก็คือ อาหารที่เรารับประทานเข้าไป อีกทั้งความเครียด และการติดเชื้อ ซึ่งการรักษาอาการปวดนั้น ส่วนมากเมื่อเกิดอาการปวดเมื่อใด

ส่วนใหญ่มักจะรับประทานยาแก้ปวด ซึ่ง ยาแก้ปวด จะได้ผลเสียบรรเทาอาการปวดในระยะสั้น ๆ เท่านั้น โดยยาแก้ปวดจะไปกดการทำงานของระบบประสาทส่วนที่ส่งสัญญาณการปวดให้ปวดน้อยลง เมื่อหมดฤทธิ์ยา อาการปวดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

ดังนั้น การรับประทานยาแก้ปวด มิได้รักษาอาการปวดอย่างแท้จริง สาเหตุ และปัญหาของอาการปวดก็ยังคงค้างอยู่ในร่างกายของเรา และการที่เราใช้ยาแก้ปวดบ่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง ยังส่งผลให้อวัยวะ ตับ และไต ทำงานหนักอีกด้วย เพราะนอกจากต้องขับเอาของเสียจากเซลล์ของร่างกายออกแล้ว ยังต้องมาขับเอายาที่ตกค้างออกจากร่างกายอีกด้วย ส่งผลให้เซลล์ และอวัยวะยิ่งทำงานหนักยิ่งขึ้น  ดังนั้น วิธีการรักษาอาการปวดที่ดีที่สุดคืออะไร.....

7 วิธีง่าย ๆ ล้างพิษลดอาการปวด

1. การดื่มน้ำสะอาดในอุณหภูมิห้องบ่อย ๆ ให้ได้วันละ 2-3 ลิตร น้ำจะช่วยชะล้างของเสียออกจากเลือดและเซลล์ได้

2. การดื่มน้ำผลไม้สดเพื่อล้างพิษขับของเสียออกจากร่างกาย เนื่องจากผลไม้อุดมไปด้วยสารแอนตี้ออกซิเดนท์ซ ซึ่งช่วยในการขจัดของเสียออกจากร่างกายและลดอาการอักเสบในร่างกายได้

3. การออกกำลังกายแบบยึดเส้น คลายกล้ามเนื้อ วันละ 20-60 นาที เช่น โยคะ กายภาพ เป็นการกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนโลหิต และกล้ามเนื้อบริเวณที่ปวดได้คลาย ทำให้บริเวณที่ปวดเลือดไหลเวียนดีขึ้น เซลล์ได้รับออกซิเจนเพียงพอ และขับของเสียออกจากเซลล์ ลดอาการอักเสบ แต่ไม่ควรออกกำลังกายแบบหักโหมจนเกิดกล้ามเนื้อบาดเจ็บ

4. การรับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยให้เพียงพอ เพราะกากใยในผักผลไม้ จะช่วยในการทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ ช่วยลดการเกิดของเสียเพิ่มในกระแสเลือดได้

5. การคิดในเชิงบวก พักผ่อนให้เพียงพอ เป็นการลดความเครียด ลดการเสียของเสียในเลือด เพราะเมื่ออารมณ์ดี ต่อมใต้สมองจะหลั่งฮอร์โมน เอนโดฟิน ออกมา มีฤทธิ์ในการบรรเทาปวดได้ดี

6. การนั่งสมาธิ พบว่าทำให้จิตสงบนิ่ง ร่างกายกล้ามเนื้อผ่อนคลาย อวัยวะต่าง ๆ ได้พักผ่อน และเกิดภาวะหลั่งฮอร์โมนเอนโดฟิน ซึ่งเป็นวิธีการระงับปวดที่มีประสทิธิภาพที่ดีที่สุด

7. การทำดีท๊อกซ์สวนลำไส้ เพื่อทำความสะอาดลำไส้ใหญ่ ลดการสะสมของของเสียในร่างกาย และช่วยให้ของเสียถูกขับออกมาจากร่างกายอีกทางหนึ่ง

เพียง 7 วิธีง่าย ๆ ในการลดอการปวด ที่คุณทำได้เองทุกที่ทุกวัน...


หากคุณเป็นหนึ่งที่พบกับปัญหาปวดเมื่อยเรื้อรังเป็นประจำ และต้องการดูแลสุขภาพ ลดความเสี่ยงต่อโรคภัยต่าง ๆ ด้วยหลักการแพทย์แผนไทยแบบธรรมชาติบำบัด

ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธุ์วงค์ ได้มีการหมักน้ำพลังเอนไซม์บำบัดจากผลไม้นานาชนิด กับน้ำผึ้งดอกไม้ป่า ความชื้นต่ำ ที่อุดไมไปด้วย วิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ และเอนไซม์ ที่ช่วยปรับสมดุลย์ของร่างกาย ขจัดของเสียออกจากในเลือด ลำไส้ใหญ่และ ตับ ซึ่งเป็นสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับอาการปวดเมื่อย และโรคร้ายเรื้อรังต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น มะเร็ง ความดัน หัวใจ เบาหวาน เป็นต้น

น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้นสำหรับดีท๊อกซ์ หรือน้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้มากกว่า 20 ชนิด อาทิเช่น แอปเปิ้ล สับปะรด องุ่น สตอเบอร์รี่ กล้วย เป็นต้น ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติ ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง ผ่านกระบวนการหมักตามธรรมชาติอย่างพิถีพิถันนานนับ 10 ปี นำมาบรรจุในขวดแก้วกรองแสง อย่างถูกสุขลักษณะ เพื่อคงคุณค่าไว้อย่างเต็มเปี่ยม จนได้เป็นผลิตภัณฑ์ “น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้น (Premier Fruit Enzyme)” ที่ให้คุณค่าการต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยในการขจัดของเสียในร่างกาย และช่วยส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมได้ในระยะยาว

การดูแลสุขภาพให้เตรียมพร้อมรับความท้าทายในชีวิต เป็นเรื่องสำคัญ เพราะ “สุขภาพดี ชีวิตดียิ่งกว่า”

น้ำพลังเอนไซม์บำบัดสูตรเข้มข้น Premier Fruit Enzyme
ขนาด 178 ml
ราคา 500 บาท
โปรโมชั่นพิเศษวันนี้ ซื้อ 6 แถม 1 เพียง 3000 บาทถ้วน (ไม่รวมค่าจัดส่ง)

 สนใจสั่งซื้อสินค้าได้ที่ ไลน์ tu-bgood หรือ อีเมล์ tusora@gmail.com

7 กรกฎาคม 2558

11 วิธีใช้น้ำผึ้งดอกไม้ป่าเพื่อความงามอย่างคุ้มค่าที่สุด!!!! (11 Method Use Polyflora Honey for best beauty,)


รู้ไหมค่ะว่า "น้ำผึ้งดอกไม้ป่า" เป็นส่วนประกอบที่สำคัญในวงการเครื่องสำอาง และสมุนไพร โดยเฉพาะในวงการแพทย์แผนจีน ซึ่งมีส่วนผสมของสมุนไพรบำรุงร่างกายมากมายที่ใช้ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่า" เป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้ในวงการแพทย์แผนไทย แพทย์แผนโบราณ หรือเวชสำอาง สกินแคร์ แพทย์ผิวหนัง ต่างก็ใช้ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่า" เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมายเลยที่สุด
เพราะน้ำผึ้งดอกไม้ป่า อุดมไปสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามิน ฮอร์โมน เอนไซม์ มากมาย ที่มีประโยชน์ต่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวกาย ผิวหน้า ผม หนังศีรษะ เล็บ มือ และเท้า นับว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายทุกส่วนจริง ๆ ค่ะ

และรู้ไหมค่ะว่า "น้ำผึ้งดอกไม้ป่า" สามารถนำมาใช้บำรุงเพื่อความงามได้ทันที โดยไม่ต้องนำไปผสมในเครื่องสำอางก็ได้ เพราะ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้" จะมีไขมันชนิดที่สามารถซึมเข้าสู่เส้นผม ผิวหนัง เล็บ ได้ด้วยตัวมันเอง โดยไม่ต้องใช้สารตัวพาใด ๆ มาผสม มาลองดูกันนะค่ะว่า... "น้ำผึ้งดอกไม้ป่า" จะสามารถนำมาใช้บำรุงความงามได้ด้วยวิธีใดบ้างให้ได้ประโยชน์สูงสุด!!!

วิธีที่ 1. นำมาทาพอกหน้าไว้ เป็นมาสก์น้ำผึ้งเพื่อความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหน้า โดยใช้ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่าแท้" เพียง 1 ช้อนโต๊ะ ทานวดเบา ๆ ไปบนผิวหน้าที่ล้างให้สะอาด และซับน้ำให้แห้ง ทานวดไปเบา ๆ ทั่วทั้งใบหน้า ทิ้งไว้เพียง 10-15 นาที แล้วล้างออก ในน้ำผึ้งจะมีเอนไซม์และฮอร์โมน ช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวให้อ่อนนุ่ม และช่วยคงความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม ชุ่มชื้นขึ้นค่ะ
แนะนำให้ทำอย่างน้อยอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งค่ะ คุณจะได้น่าเนียนใส อ่อนกว่าวัยค่ะ

วิธีที่ 2. นำ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามาผสมกับ น้ำมันอัลมอนด์บริสุทธิ์" โดยใช้อัตราส่วน น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับน้ำมันอัลมอลด์บริสุทธิ์ 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนวดหน้าเป็นวงกลมเบา ๆ สัก 5-10 นาที เอนไซม์ในน้ำผึ้งจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า และน้ำมันอัลมอนด์ที่อุดมไปด้วยวิตามินอีซึ่งเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์จะไปช่วยขจัดสารก่อตัวของแบคทีเรีย ลดการเกิดสิวได้อีกด้วยค่ะ

วิธีที่ 3 นำ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามาผสมกับเกลือป่นละเอียด โดยใช้ น้ำผึ้งดอกไม้ป่า 2 ช้อนโต๊ะ กับเกลือเล็กน้อย นำมาขัดเบา ๆ เป็นวงกลมที่ใบหน้าและลำตัว จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังเก่าออกไป พร้อมบำรุงด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ วิตามิน แร่ธาตุ ทำให้ผิวนุ่มเนียนใสเลยที่เดียว

วิธีที่ 4 นำ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามาผสมกับน้ำมันมะพร้าว" โดยใช้อัตราส่วนน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ นำมานวดหน้า หรือทานวดเบา ๆ บริเวณรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว จะช่วยลดการอักเสบของผิว และลดเม็ดสีในแผลเป็น ช่วยปรับผิวให้ขาวใสขึ้น

วิธีที่ 5 ลดการเกิดสิว ด้วยการทา "น้ำผึ้งดอกไม้ป่า" ที่หน้าทิ้งไว้ 10-15 นาทีทุกวัน เนื่องจากน้ำผึ้งจะลดอาการอักเสบของสิวแล้วยังลดแบคทีเรีย และเชื้อราให้กับผิวอีกด้วย 

วิธีที่ 6 นำ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่ามาผสมกับน้ำอุ่นใช้แช่อาบ" โดยใช้อัตราส่วน น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 1 ถ้วย คนให้เข้ากัน จากนั้นเทลงในอ่างอาบน้ำ ลงไปแช่ตัวนาน 15 -20 นาที ช่วยให้ผิวพรรณอ่อนนุ่ม เนียนใส กระจ่างขึ้น แถมผ่อนคลายอีกด้วย

วิธีที่ 7 ลดปัญหาจมูกเล็บแข็ง ทำให้จมูกเล็บอ่อนนุ่มขึ้น โดยผสม น้ำผึ้งดอกไม้ป่า 1 ช้อนชา น้ำมันอัลมอนด์ 1 ช้อนชา และน้ำหมักเอนไซม์จากผลไม้ 1 ช้อนชา นำมาถูบริเวณหนังเล็บ จะช่วยปรับสมดุลของกรดด่างให้กับผิวบริเวณนั้นลดการแข็งของจมูกเล็บ ลดการอักเสบ และทำให้หนังเล็บอ่อนนุ่ม

น้ำมันอัลมอนด์พลัส
ส่วนประกอบ น้ำมันสกัดเมล็ดสวีทอัลมอนด์ Prunus Amygdalus, Vitamin E Acetate จากเมล็ดถั่ว
ขนาดบรรจุ 60 มล.   ราคา 120 บาท
โปรโมชั่นพิเศษวันนี้ถึง 31 สิงหาคม 2558 เท่านั้น
ซื้อ น้ำมันอัลมอนด์พลัส 6 ขวด แถมฟรี 1 ขวด 
(ราคา 720 บาท ไม่รวมค่าจัดส่ง)
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.293546160778803.1073741832.289410941192325&type=3

วิธีที่ 8 ใช้เป็นครีมนวดผม โดยผสม "น้ำผึ้งดอกไม้ป่ากับน้ำมันอัลมอนด์" ในอัตราส่วนน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กับ น้ำมันอัลมอนด์ 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นก็ใช้นวดบริวเณปลายผมทิ้งไว้ 20 นาที แล้วล้างออก เอนไซม์ในน้ำผึ้ง และวิตามิน แร่ธาตุจากน้ำผึ้ง และน้ำมันอัลมอนด์จะเข้าไปบำรุงให้ความชุ่มชื้นแก่เส้นผมและหนังศีรษะ

วิธีที่ 9 ใช้ผสมกับแชมพูสระผมที่ใช้อยู่ น้ำผึ้งจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้เส้นผมแข็งแรงอีกด้วย

วิธีที่ 10 ใช้ทำไฮไลท์ผม โดยผสม "น้ำผึ้งดอกไม้ป่ากับน้ำอุ่น" โดยใช้อัตราส่วน น้ำผึ้งดอกไม้ป่า 3 ช้อนโต๊ะ กับน้ำอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ ทาลงบนผมที่เปียกหมาด ๆ ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วล้างออก เอนไซม์ในน้ำผึ้งเมื่อเจอะออกซิเจนจะปล่อยสารไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ออกมาจนทำให้สีผมค่อย ๆ อ่อนลงตามธรรมชาติค่ะ

วิธีที่ 11 ใช้ "น้ำผึ้งดอกไม้ป่าผสมกับเจลว่านหางจระเข้" ทาที่ผิวที่เกิดอาการพุพอง น้ำร้อนลวก ผิวไหม้จากแสงแดด ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อน อาการอักเสบ ฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังทำให้หายไวยิ่งขึ้นค่ะ

จะเห็นได้ว่า "น้ำผึ้งดอกไม้ป่า" มีประโยชน์มากมายสำหรับความสวยความงาม แบบนี้ควรมีน้ำผึ้งติดบ้านไว้บ้างนะค่ะ ราคาประหยัด ปลอดภัย ไร้สารเคมีตกค้าง แบบนี้ สาว ๆ ที่รักสุขภาพ ทั้งภายในและภายนอก ต้องพกน้ำผึ้งติดบ้านไว้แล้วค่ะ...

เรียบเรียงดัดแปลงโดย บ้านรักษ์สุขภาพ
ที่มา นิตยสารสุขภาพผู้หญิง
ภาพประกอบจาก กูเกิ้ล

Natural Polyflora Honey 
น้ำผึ้งดอกไม้ป่า หอมกลิ่นดอกไม้นานาพันธุ์ รสหวาน หอม สดชื่น ช่วยชะลอวัย ฟื้นฟูสุขภาพ
ความชื้นหรือน้ำ 18.20%
ลีวูโลส (ฟรุกโตส) 38.19%
เดกซ์โตส (กลูโคส) 37.28%
ซูโครส 1.31%
มอสโตส 7.31%
เด็กซ์ตริน 1.50%
โปรตีนในน้ำผึ้ง 0.26%
แร่ธาตุในน้ำผึ้ง 0.26%

วิตามินและแร่ธาตุที่พบใน น้ำผึ้งดอกไม้ป่า
โปแตสเซียม, โซเดียม,แคลเซียม, เหล็ก,ทองแดง,แมงกานีส,แมกนีเซียม,สังกะสี, วิตามินบี 1, วิตามิน บี 3, วิตามินบี 6, วิตามินบี 9

เอนไซม์ที่พบใน น้ำผึ้งดอกไม้ป่า
อินเวอร์เตส,ไดแอสเตส,กลูโคออกซิเดส,คาตาเลส,โปรตีเนส ฟอสฟาเตส

จำหน่าย น้ำผึ้งดอกไม้ป่า แท้ ความชื้นต่ำ 18% ขนาดบรรจุ 2 ขนาด คือ

1. ขนาด 1.2 kg บรรจุเป็นขวดแกลลอนพลาสติก ราคา 300 บาท
2. ขนาด 7.0 kg บรรจุเป็นแกลลอนพลาสติก ราคา 1600 บาท

สนใจสอบถามหรือสั่งซื้อได้ที่ไลน์ tu-bgood หรืออีเมล์ tusora@gmail.com
หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.293846130748806.1073741833.289410941192325&type=3

5 กรกฎาคม 2558

7 เทคนิคกำจัดกลิ่นปากด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ


กลิ่นปาก ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะตัวของคุณเองอีกต่อไป แต่เป็นปัญหาใหญ่ทั้งของตัวคุณเอง และบุคคลรอบข้างคุณ เมื่อคุณมีกลิ่นปาก เวลาที่พูดหรือสนทนากับบุคคลอื่น กลิ่นปากก็ส่งผลต่อความสัมพันธ์ บุคคลิกภาพและความน่าเชื่อถือของคุณ

สาเหตุของกลิ่นปากมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารบ้างชนิด เช่น หัวหอม กระเทียม ทุเรียน หรือการดื่มสุรา สูบบุหรี่ เป็นประจำ หรือท้องผูกหลาย ๆ วัน ก็เป็นสาเหตุหนึ่งขอการเกิดกลิ่นปากได้ หรือกระทั่งอาการของโรคบางอย่าง ก็ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพปาก หรือกลิ่นปากได้ เช่น ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคไต เป็นต้น

7 เทคนิคง่าย ๆ ในการกำจัดกลิ่นปากด้วยตัวคุณเอง

1. ดื่มน้ำบ่อย ๆ จะช่วยลดการสะสมของเมือก และน้ำลายในปาก ลดกลิ่นปากได้ดี
2. เวลาแปรงฟัน ให้แปรงเหงือก กระพุงแก้ม แปรงลิ้น และโคนลิ้นด้วย เพื่อกำจัดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปาก
3. รับประทานอาหารที่มีใยอาหารให้เพียงพอในแต่ละวัน และอาหารที่มีกากใยจะช่วยขัดฟันให้ขาวสะอาดอีกด้วย เช่น แอปเปิ้ล
4. แปรงฟันทุกครั้งหลังมืออาหาร 30 นาที ช่วยลดปัญหาการเกิดกรดในช่องปาก และลดการสะสมของแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก
5. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม พริกไทย ชา กาแฟ
6. ใช้น้ำยาป้วนปาก เพื่อเสริมการแปรงฟัน ลดแบคทีเรียในบริเวณที่การแปรงฟันเข้าไม่ถึง
7. ไปพบหมอฟันเป็นประจำ ทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพในช่องปากของคุณ

เพียงวิธีง่าย ๆ แบบนี้ จะทำให้สุขภาพเหงือก และฟันของคุณดี โดยไม่มีกลิ่นปากมากวนใจอีกเลยค่ะ

ข้อมูลดี ๆ จาก บ้านรักษ์สุขภาพ ลาดปลาเค้า 76 
ภาพประกอบจากกูเกิ้ลดอดคอม

จากหนึ่งทางเลือกของการแก้ปัญหาสุขภาพกลิ่นปากด้วยตัวคุณเอง การใช้น้ำยาป้วนปากที่ดีมีประสิทธิภาพช่วยกำจัดปัญหากลิ่นปากและไม่เป็นอันตรายต่อช่องปากและสุขภาพของคุณ ก็นับเป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้น การเลือกใช้น้ำยาป้วนปากจากสมุนไพร เพื่อช่วยแก้ปัญหาสุขภาพในช่องปาก การลดปัญหากลิ่นปาก และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่เป็นอีกช่องทางที่เพิ่มสารเคมีสะสมเข้าสู่ร่างกาย

ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เอนไซม์ป้วนปากสูตรสมุนไพร จากกรรมวิธีการผลิตจากธรรมชาติของ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงค์ ที่ผลิตและจำหน่ายโดย บ้านรักษ์สุขภาพ เป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ 100%  มีส่วนประกอบจาก น้ำหมักเอนไซม์จากสมุนไพรนานาชนิด สารสกัดจากกานพลู สารสกัดจากใบฝรั่ง และสาระแหน่ ล้วนเป็นกรรมวิธีจากธรรมชาติ ซึ่งช่วยลดปัญหากลิ่นปาก ปรับสมดุลของแบคทีเรียในช่องปาก และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเมื่อกลืนกินเข้าไปอีกด้วย

จึงเป็นการตอบโจทย์ของการดูแลปัญหาในช่องปากได้เป็นอย่างดี สนใจอ่านรายละเอียดต่อได้ที่ http://friutenzyme.blogspot.com/2015/07/blog-post.html

หรือดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้จาก https://www.facebook.com/media/set/?set=a.677045142428901.1073741845.289410941192325&type=3

ผลิตภัณฑ์เอนไซม์ป้วนปากสูตรสมุนไพร
ขนาดบรรจุ 500 มิลลิลิตร
ราคา 200 บาท
โปรโมชั่นพิเศษ ซื้อ 6 ขวด แถมฟรี 1 ขวด ทันทีค่ะ

หรือติดต่อพูดคุย สั่งซื้อได้ที่ Line: tu-bgood