PM 2.5 ฝุ่นพิษหรือฝุ่นละอองที่สูงเกินมาตรฐานทำลายดวงตา
โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงวัยเด็กเล็ก ผู้สูงวัย หรือผู้มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ ฯลฯ อย่างช่วงเวลายามเช้าหรือช่วงเย็นจะรู้สึกหายใจลำบาก แสบคันจมูก คันคอ เมื่อสูดฝุ่นเข้าไปสะสมในหลอดลมหรือปอดนานๆ จะส่งผลต่อสุขภาพและเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดได้ ที่สำคัญบริเวณรอบดวงตาอาจเกิดอาการระคายเคืองตา แสบคันตาได้
โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงวัยเด็กเล็ก ผู้สูงวัย หรือผู้มีโรคประจำตัว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ ฯลฯ อย่างช่วงเวลายามเช้าหรือช่วงเย็นจะรู้สึกหายใจลำบาก แสบคันจมูก คันคอ เมื่อสูดฝุ่นเข้าไปสะสมในหลอดลมหรือปอดนานๆ จะส่งผลต่อสุขภาพและเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดได้ ที่สำคัญบริเวณรอบดวงตาอาจเกิดอาการระคายเคืองตา แสบคันตาได้
นพ.นพวุฒิ กล่าวว่า...ฝุ่นละอองเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นผลเสียต่อดวงตา ที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองตา คันตา เท่านั้น ยังสามารถก่อให้เกิดอาการตาขาวอักเสบแดง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ตา หรือผู้ใช้คอนแทกเลนส์ประจำ รวมไปถึงผู้ที่มีภาวะตาแห้ง ฝุ่นประเภทนี้มีเชื้อโรคปนเปื้อนเป็นสาเหตุการติดเชื้อที่ดวงตาและเปลือกตาจนเกิดเป็นตากุ้งยิงได้ โดยหากเกิดอาการดังกล่าวขึ้นให้หลีกเลี่ยงการขยี้ตา ให้ใช้วิธีการหยอดน้ำตาเทียมหรือน้ำยาล้างตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและชำระล้างฝุ่น หากเกิดอาการคันตามากจากการแพ้ฝุ่นหรือตาแดงอักเสบมากควรรีบมาพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุและรักษาได้ทันท่วงที
กลุ่มเสี่ยง เช่น
- ผู้ที่มีโรคภูมิแพ้ตา
- ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์
- ผู้ที่มีภาวะตาแห้ง
- ผู้ที่เป็นต้อลม ต้อเนื้อ
- ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
- ผู้ที่ทำงาน หรือมีอาชีพที่มีความเสี่ยงกับฝุ่นละออง
วิธีดูแลดวงตาให้ปลอดภัยจากฝุ่น PM 2.5
1. หยอดล้างตาบ่อย ๆ เพื่อให้ดวงตาชุ่มชื้น ไม่ระคายเคืองตา
2. ดื่มน้ำบ่อย ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับร่างกายและเยื่อบุดวงตา
3. หลีกเลี่ยงแสงแดดและฝุ่นควัน ด้วยการสวมแว่นตาลดแสง และปกป้องดวงตา
4. ล้างตาทุกครั้งที่มีโอกาส หรือหลังกลับบ้าน ก่อนเข้านอนทุกวันในช่วงนี้
สอบถามรายละเอียด Eye drop ที่ไลน์ @QWD5997Q